“ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568” เช็ก 2 กลุ่มหลักได้รับสิทธิเงินช่วยเหลือเดือนละ 1,545 บาท ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรคนจน
อัปเดตการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568” ซึ่งล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เผยความคืบหน้าของการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 คาดว่าจะชัดเจนภายในเดือนนี้ โดยกระทรวงการคลัง เตรียมจะเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 ตามช่วงเวลาที่ได้กำหนดไว้ โดยมี 2 กลุ่มใหญ่ที่จะได้รับสิทธิเงินช่วยเหลือ ซึ่งมีดังนี้
1. กลุ่มเดิม คือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่านกระบวนการแล้ว 14.5 ล้านคน ซึ่งคนกลุ่มเดิมไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ จะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ แล้วทำการคัดกรองผู้ได้รับสิทธิตามเกณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่จนจริง
2. กลุ่มใหม่ คือคนที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน โดยมาจากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปี รวมถึงผู้ที่พลาดสิทธิในครั้งก่อนหน้า จะต้องมีการลงทะเบียน คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐ สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน และเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ รวมไปถึงกลุ่มตกหล่นที่ลงทะเบียนในปี 2565 แล้วยังไม่มีการยืนยันตัวตน
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
กระทรวงการคลัง ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568
1. สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
2. รายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
3. รายได้เฉลี่ยครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
4. มีทรัพย์สิน เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่เกิน 100,000 บาท/คน
4. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์(ตามที่กำหนด)
5. ต้องไม่มีบัตรเครดิต
6. มีวงเงินกู้ ที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้ ยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น
7. ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เงินช่วยเหลือเท่าไหร่
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
- รวมเป็นเงิน 1,545 บาท
