รู้แล้ว เหตุผลที่นักเรียนผู้ก่อเหตุอายุย่าง 16 ปี แต่ยังเรียนซ้ำชั้นที่ ป.5 – อาการล่าสุดผู้บาดเจ็บ ล่าสุดคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
นับเป็นเรื่องที่น่าสลดใจไม่น้อย หลังจากที่มีรายงานว่า เกิดเหตุนักเรียนชายทำร้ายร่างกายนักเรียนอีกคน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมสถาบัน แต่อยู่คนละชั้นการศึกษา ก่อเหตุด้วยมีดปลายแหลมความยาวประมาณ 1 ฝ่ามือทำร้ายกันจนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะทราบว่า ผู้ก่อเหตุอายุย่าง 16 ปี แต่ยังอยู่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 5
ส่วนคนเจ็บอายุ 14 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั่นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนวัดชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งโชคดีที่ในที่เกิดเหตุมีคุณหมออยู่ในเหตุการณ์ จึงได้ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ขณะที่บาดแผลที่ถูกทำร้ายนั้นอยู่บริเวณรักแร้ขวา และแขนข้างขวา และล่าสุดมีรายงานว่า อาการของเด็กที่ถูกทำร้ายอาการปลอดภัยแล้ว ทางแพทย์อาจจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้ (26 ก.พ. 68)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ สน.คลองตัน หลังเกิดเหตุทางตำรวจจะมีการเข้มงวดในมาตรการดูแลทุกสถานศึกษา เฝ้าระวังจับตาในเรื่องของนักเรียนพกพาอาวุธมาที่สถานศึกษา หลังจากนี้จะต้องนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาพูดคุย เพื่อหาวิธีการและเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคตอีก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้เชิญสหวิชาชีพมาเข้าร่วมทำการสอบปากคำเด็กผู้ก่อเหตุ ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน, พนักงานอัยการ, นักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ และทนายความ
แต่ประเด็นที่สังคมต่างจับตามองก็คือ นักเรียนชายผู้ก่อเหตุที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แต่อายุกำลังจะ 16 ปี นั้น ซึ่งที่จริงแล้วเป็นเพื่อนกับผู้บาดเจ็บด้วยซ้ำไป แต่มีข้อมูลว่า ทำไมน้องยังเรียนอยู่ชั้นป.5 และเหตุจูงใจที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นจากอะไร หลังจากที่มีรายสอบสวนกันทันทีหลังจากที่เกิดเหตุ จึงมีข้อสรุป และ ข้ออธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า
อย่างไรก็ตามช่วงตอนหนึ่งในรายการเที่ยววันทันเหตุการณ์ ซึ่ง ดร.หมวย อริสรา กำธรเจริญระบุว่า ประเด็นเรื่องมูลเหตุจูงใจ ทางผู้ก่อเหตุระบุว่า ตนทนไม่ได้ที่ ผู้บาดเจ็บพูดถึงแฟนสาวของตนเอง ในลักษณะเชิงแซะ แขวะ ทางผู้ก่อเหตุบอกว่าได้มีการเตือนไปหลายครั้ง แต่ผู้บาดเจ็บยังไม่หยุด จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ส่วนเหตุผลที่ ผู้ก่อเหตุอายุจะ 16 ปีแล้ว แต่ยังเรียนอยู่ชั้นป.5 ก็เพราะว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนไทยแท้ๆ (มีข้อมูลว่าเป็นชาวกัมพูชา) ทำให้ผู้ก่อเหตุยังเรียนซ้ำชั้นหลายปี เนื่องจากไม่เข้าใจในภาษาไทยที่กำลังเรียนเท่าใดนัก
